สภาพทั่วไปและข้อมูลพื้นฐาน
เทศบาลตำบลยี่งอ
♦ ด้านกายภาพ
⇒ ที่ตั้งของหมู่บ้านหรือชุมชนหรือตำบล
เทศบาลตำบลยี่งอมีพื้นที่ตั้งอยู่บนพื้นที่บางส่วนของหมู่ที่ 1,3,7 ของตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
◊ ทิศเหนือ วัดได้ 450 เมตร จดสายน้ำจาเราะกาแร มีหลักเขตที่ 1 ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศใต้เลียบไปตามสายน้ำไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ผ่านถนนรามโกมุท (ทางหลวงแผ่นดินสายปัตตานี-นราธิวาส) ตรงกิโลเมตรที่ 85.945 เป็นเส้นตรงไปจดหลักเขตที่ 2 ที่ฝั่งทิศใต้ของสายน้ำจาเราะกาแร
◊ ทิศตะวันออก วัดได้ 1,200 เมตร จดทุ่งนาและสวนอาสินของราษฎร จากหลักเขตที่ 2 เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จดหลักเขตที่ 3 ริมถนนรามโกมุทที่ฝั่งทิศเหนือตรงกิโลเมตรที่ 86.935 จากหลักเขตที่ 3 เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จดหลักเขตที่ 4 ที่ริมถนนทางหลวงชนบท (สายไปอำเภอระแงะ) ฝั่งตะวันออก
◊ ทิศใต้ วัดได้ 100 เมตร จดทุ่งนาและสวนอาสินของราษฎร จากหลักเขตที่ 4 เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกผ่านทางหลวงชนบท (สายไปอำเภอระแงะ) จดหลักเขตที่ 5
◊ ทิศตะวันตก วัดได้ 1,200 เมตร จดทุ่งนาและสวนอาสินของราษฎร จากหลักเขตที่ 5 ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผ่านถนนมรรคาปิ่นนิตย์ (ทางหลวงจังหวัดสายยี่งอ-มะรือโบ) ตรงกิโลเมตรที่ 0.250 เป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบรรจบกับหลักเขตที่ 1
⇒ การแบ่งเขตชุมชน
เทศบาลตำบลยี่งอแบ่งชุมชนออกเป็น 6 ชุมชนเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2544 และมีคณะกรรมการชุมชนๆ ละ 9 คน โดยแบ่งเขตชุมชนออกดังนี้
1. ชุมชนบูแม ได้แก่ชุมชนที่มีบ้านเรือนราษฎรอาศัยอยู่บริเวณฝั่งซ้ายของถนนรามโกมุท ฝั่งขวาของถนนเทศบาล 3 บริเวณสองฝั่งของถนนเทศบาล 1 และถนนเทศบาล 4 สุดเขตเทศบาลบริเวณคลองบูแมและรั้ววัดราษฎร์วิริยาราม
2. ชุมชนปอเนาะ ได้แก่ชุมชนที่มีบ้านเรือนราษฎรอาศัยอยู่บริเวณฝั่งขวาของถนนรามโกมุท ฝั่งซ้ายของถนนเทศบาล 8
3. ชุมชนกำปงบอเวาะฮ์ ได้แก่ชุมชนที่มีบ้านเรือนราษฎรอาศัยอยู่บริเวณฝั่งขวาตอนบนของถนนรามโกมุท ฝั่งขวาของถนนเทศบาล 8 ตลอดสายจนถึงแนวเขตคลองจาเราะกาแรตอนล่างและพื้นที่บริเวณบ้านจัดสรรติดต่อเขตพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลยี่งอ หมู่ที่ 1 โดยมีถนนเทศบาล 9 เป็นเส้นแบ่งแนวเขต
4. ชุมชนยือรีงา ได้แก่ชุมชนที่มีบ้านเรือนราษฎรอาศัยอยู่บริเวณฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของถนนมรรคาปิ่นนิตย์ ฝั่งซ้ายของถนนรามโกมุท ฝั่งซ้ายและขวาของถนนเทศบาล 2 ฝั่งซ้ายของถนนเทศบาล 3 และถนนเทศบาล 5 จดเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลยี่งอ หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 4 และถนนเทศบาล 6
5. ชุมชนมัสยิดยาเมอ์ ได้แก่ชุมชนที่มีบ้านเรือนราษฎรอาศัยอยู่บริเวณฝั่งขวาของถนนเทศบาล 5 ฝั่งซ้ายของถนนรามโกมุทตอนกลางและฝั่งขวาของถนนเทศบาล 7
6. ชุมชนสะพานเหล็ก ได้แก่ชุมชนที่มีบ้านเรือนราษฎรอาศัยอยู่บริเวณฝั่งขวาของถนนเทศบาล 5 ตั้งแต่แนวเขตติดต่อพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลยี่งอ หมู่ที่ 2 ถึงจุดที่เป็นสุสาน กูโบร์ลางา) ขึ้นไปตลอดแนวฝั่งซ้ายของถนนเทศบาล 7 และฝั่งซ้ายของถนนรามโกมุทตอนบนเลียบตลอดสายคลองจาเราะกาแรตอนบน
⇒ ลักษณะภูมิประเทศ
– ลักษณะภูมิประเทศโดยรวมจะเป็นที่ดอนและที่ราบลุ่มเหมาะแก่การทำการเกษตรและที่อยู่อาศัย
⇒ ลักษณะภูมิอากาศ
– มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น มีเพียง 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนและฤดูฝน
⇒ ลักษณะของดิน
– ลักษณะของดินในเขตเทศบาลเป็นดินร่วนปนทรายเหมาะสำหรับปลูกพืชผลต่างๆ และยางพารา
⇒ ลักษณะของแหล่งน้ำ
1. แหล่งน้ำบนผิวดิน มีแหล่งน้ำจากเทือกเขายี่งอ-รือเสาะ-บาเจาะ ซึ่งไหลจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก ขนาดของแหล่งน้ำกว้างประมาณ 7.50 เมตร ลึกประมาณ 5 เมตร น้ำที่ได้มีคุณภาพดี ปริมาณน้ำจะลดลงในฤดูร้อน
2. แหล่งน้ำใต้ดิน ประชากรในเขตเทศบาลส่วนใหญ่จะขุดบ่อน้ำประจำบ้านของตนเอง ซึ่งมีปริมาณน้ำที่เพียงพอกับความต้องการใช้ในการอุปโภคบริโภค แต่บางครัวเรือนไม่สามารถนำน้ำมาบริโภคได้เนื่องจากน้ำมีสีและกลิ่น
⇒ ลักษณะของไม้และป่าไม้
– สภาพป่าไม้ในเขตเทศบาล ส่วนใหญ่จะเป็นป่าไม้พืชผล เช่น ลองกอง เงาะ ทุเรียน มังคุด ฯลฯ
♦ ด้านการเมือง/การปกครอง
⇒ เขตการปกครอง
ทิศเหนือติดกับพื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลยี่งอ หมู่ที่ 3,7 ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
ทิศตะวันออกติดกับพื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลยี่งอ หมู่ที่ 1,3 ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
ทิศใต้ติดกับพื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลยี่งอ หมู่ที่ 1,7 ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
ทิศตะวันตกติดกับพื้นที่เขตองค์การบริหารส่วนตำบลยี่งอ หมู่ที่ 2,4 ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
⇒ การเลือกตั้ง
– ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึงปัจจุบัน กำหนดให้เทศบาลตำบลมีนายกเทศมนตรีจำนวน 1 คน สมาชิกสภาเทศบาลจำนวน 12 คนซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยการเลือกตั้งของเทศบาลตำบลยี่งอครั้งหลังสุดเป็นการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2555 จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดจำนวน 2,087 คน มีผู้มาใช้สิทธิจำนวน 1,712 คน คิดเป็นร้อยละ 82.03
♦ ประชากร
⇒ ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนประชากร
– ประชากรในเขตเทศบาลตำบลยี่งอ ณ เดือนพฤศจิกายน 2559 มีทั้งสิ้น 3,128 คน เป็นชาย 1,555 คน หญิง 1,573 คน ความหนาแน่นของประชากร 4,857 คนต่อตารางกิโลเมตร จำนวนหลังคาเรือน 980 หลังคาเรือน
♦ สภาพทางสังคม
⇒ การศึกษา
– เทศบาลตำบลยี่งอ ไม่มีโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของเทศบาล แต่มีสถานศึกษาสังกัดหน่วยงานต่างๆ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล ได้แก่
1. โรงเรียนพิพัฒน์ทักษิณ สังกัดสำนักงานการศึกษาเอกชน มีพื้นที่ 1 ไร่ 1 งาน 61 ตารางวา เปิดสอนระดับอนุบาลปีที่ 1 ถึงระดับอนุบาลปีที่ 3 มีจำนวนห้องเรียน
2. โรงเรียนบ้านยี่งอ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1 มีพื้นที่ 11 ไร่ 89 ตารางวา เปิดสอนระดับอนุบาลถึงระดับประถมศึกษาปีที่ 6
3. ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอยี่งอ สังกัดสำนักบริหารการศึกษานอกโรงเรียน เปิดสอนระดับประถมศึกษาถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
⇒ การสาธารณสุข
1. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอยี่งอ
2. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลยี่งอ
3. ร้านขายยาแผนปัจจุบันบรรจุเสร็จ 3 แห่ง
♦ ระบบบริการพื้นฐาน
⇒ การคมนาคมขนส่ง
⇒ การไฟฟ้า
– ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ครบทุกครัวเรือน นอกจากนี้เทศบาลตำบลยี่งอจัดให้มีไฟฟ้าแสงสว่างสาธารณะบนถนนทุกสายในเขตเทศบาล และติดตั้งตามจุดต่างๆ ภายในชุมชน
⇒ การประปา
– เทศบาลตำบลยี่งอได้รับบริการน้ำประปาจากการประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดนราธิวาส ครัวเรือนที่รับบริการมีประมาณ 50% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมด ส่วนครัวเรือนที่ไม่รับบริการน้ำประปาจากการประปาฯก็จะมีแหล่งน้ำจากบ่อน้ำตื้นและบ่อน้ำบาดาลที่สร้างขึ้นเอง
⇒ โทรศัพท์
– ปัจจุบันทุกชุมชนใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นส่วนใหญ่และโทรศัพท์ประจำที่ติดตั้งตามบ้านเรือนประชาชน
⇒ ไปรษณีย์หรือการสื่อสารหรือการขนส่ง และวัสดุ ครุภัณฑ์
– ที่ทำการไปรษณีย์ที่ใกล้ที่สุด คือ ที่ทำการไปรษณีย์อำเภอยี่งอ ห่างจากเทศบาลตำบลยี่งอ ประมาณ 800 เมตร
♦ ระบบเศรษฐกิจ
⇒ การเกษตร
– ลักษณะการเกษตรในเขตเทศบาลตำบลยี่งอส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ เช่น ลองกอง เงาะ ทุเรียน มังคุด และพืชผักสวนครัว เป็นต้น
⇒ การประมง
– การประมงในเขตเทศบาลตำบลยี่งอมีเป็นส่วนน้อย เช่น บางครัวเรือนมีบ่อเลี้ยงปลาสำหรับบริโภคเอง เป็นต้น
⇒ การปศุสัตว์
– การปศุสัตว์ในเขตเทศบาลตำบลยี่งอมีเป็นส่วนน้อย เช่น แพะ ไก่ เป็ด วัว เป็นต้น
⇒ การท่องเที่ยว
1. อาคารย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองยี่งอ ตั้งอยู่ชุมชนยือรีงา หมู่ที่ 3 ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
2. ถนนคนเดิน ทุกวันศุกร์ เวลา 13.00 – 20.00 น. ณ บริเวณถนนเทศบาล ตำบลยี่งอ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
⇒ การอุตสาหกรรม
– มีอุตสาหกรรมขนาดเล็กจำนวน 1 แห่ง คือ การผลิตอิฐบล็อก
♦ ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม
⇒ การนับถือศาสนา
– ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 95 นับถือศาสนาอิสลาม มีมัสยิดในเขตเทศบาลจำนวน 2 แห่ง รองลงมานับถือศาสนาพุทธ มีวัดตั้งอยู่นอกเขตเทศบาลจำนวน 1 แห่ง
⇒ ประเพณีและงานประจำปี
– เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ลักษณะวัฒนธรรมประเพณีส่วนใหญ่จึงเป็นของชาวไทยมุสลิม ได้แก่
1. มาแกปูโละ “มาแกปูโละ” เป็นภาษาท้องถิ่น แปลว่า “กินเหนียว” ประเพณีการกินเหนียวของชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม จะใช้ในหลายโอกาส เช่น แต่งงานและเข้าสุหนัต คาว่า“กินเหนียว” มิใช่ว่าเจ้าของจะบริการอาหารเฉพาะข้าวเหนียวเท่านั้น แต่เป็นการเลี้ยงอาหารธรรมดาทั่วไปนั้นเอง
2. การเข้าสุหนัต เป็นหลักการของศาสนาอิสลาม อันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องความสะอาด คือการ ขลิปผิวหนังหุ้มส่วนปลายอวัยวะเพศชายหรือเรียกตามภาษาท้องถิ่นว่า “มาโซะยาวี” ซึ่งจะกระทำแก่เด็กชายที่มีอายุระหว่าง 2-10 ปี ส่วนการจัดเลี้ยงอาหารในวันเข้าสุหนัต ถือว่าเป็นประเพณีอย่างหนึ่ง
3. พิธีถือศีลอด (ถือบวช) เมื่อถึงเดือน “รอมฎอน” หรือเดือนที่ 9 ของปีฮิจเราะห์ศักราช ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามทุกคนจะถือศีลอด นับเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวจะไม่ให้อาหารและน้ำล่วงล้ำเข้าไปในลำคอนับตั้งแต่ตะวันสางไปจนถึงตะวันลับขอบฟ้าและจะเริ่มรับประทานอาหารเมื่อถึงเวลา (ประมาณ 6 โมงเย็นล่วงไปแล้ว) จนถึงก่อนสว่าง เหตุผลที่ศาสนาอิสลามได้บัญญัติไว้เช่นนี้ ก็เพื่อให้ชาวมุสลิมได้รู้สำนึกความอดอยากและความยากจนว่าในยามที่คนเราต้องอดอาหารนั้น จะมีความทุกข์ทรมานเพียงใด เพื่อคนร่ำรวยจะได้เกิดจิตสำนึกมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แล้วให้การช่วยเหลือหรือบริจาคทาน (ซากัด) แก่คนยากจน เมื่อครบกำหนด 1 เดือน จะเป็นวันออกบวชหรือที่เรียก “วันฮารีรายอ” หรือ “อิฎิลฟิตรี” เพื่อฉลองการกลับมาสู่การดำเนินชีวิตตามปกติของมวลมุสลิมทั่วโลก หลังจากที่ได้ประสบความสาเร็จในการถือศีลอดอย่างเคร่งครัด ตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลามในวันนี้ยังจัดให้มีการบริจาคทานแก่บุคคล 8 ประเภท เช่น คนยากจน คนอนาถา และคนพิการทั่วไป ฯลฯ รวมทั้งร่วมกันบริจาคเพื่อสิ่งอันเป็นสาธารณประโยชน์อีกด้วย
4. วันฮารีรายอ มีอยู่ 2 วันคือ
(1) วันอิฏิลฟิตรี หรือที่เรียกว่า “วันฮารีรายอ” เป็นวันรื่นเริงเนื่องจากการสิ้นสุดการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เป็นการกลับเข้าสู่สภาพเดิมคือ สภาพที่ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องอดน้ำ ฯลฯ อีกต่อไป วันอิฏิลฟิตรี ตรงกับวันที่หนึ่งของเดือนเซาวาล ซึ่งเป็นเดือนที่ 10 ทางจันทรคติ
(2) วันอิฏิลอัตฮา หรือที่เรียกว่า “วันฮารีรายอหัจญี” หมายถึงวันรื่นเริงเดือนซุลอิจญะ เป็นเวลาเดียวกับการประกอบพิธีหัจญ์ ณ นครเมกกะของมุสลิมทั่วโลก ดังนั้นชาวไทยมุสลิมจึงนิยมเรียกวันตรุษนี้ว่า วันอีดใหญ่หรือวันรายอหัจญี ชาวไทยมุสลิมจะจัดพิธีละหมาดร่วมกันในเวลาเช้าหลังจากนั้นจะร่วมกันกรุบ่าน (เชือดสัตว์ เช่น โค แพะ แกะ) เพื่อแจกจ่ายให้แก่ คนยากจนหรือจัดงานเลี้ยงตามบ้าน โดยเชิญญาติพี่น้องมิตรสหายรับประทานอาหารร่วมกัน
5. วันเมาลิด “เมาลิด” เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า เกิด ที่เกิด หรือวันเกิดซึ่งหมายถึง วันสมภพของนบีมูฮัมหมัด ตรงกับวันที่ 12 ของเดือนรอบีอุลอาวาล หรือเดือนที่ 3 ตามปฏิทินอาหรับ วันเมาลิดนอกจากจะเป็นวันเฉลิมฉลองเนื่องในวันสมภพของนบีมูฮัมหมัดแล้ว ยังเป็นการรำลึกถึงวันที่ท่านลี้ภัยจากนครเมกกะไปสู่นครมาดีนะห์ และเป็นวันมรณกรรมของท่านอีกด้วย กิจกรรมต่างๆ ในวันเมาลิดได้แก่ การอัญเชิญคัมภีร์ อัน-กุรอ่าน การบรรยายธรรม การแสดงนิทรรศการ การเลี้ยงอาหาร ฯลฯ
6. วันอาซูรอ “อาซูรอ” เป็นภาษาอาหรับ หมายถึง วันที่ 10 ของเดือนมุฮัรรอน ซึ่งเป็นเดือนศักราชอิสลามในสมัยท่านนบีนุฮ ได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ยังความเสียหายแก่ทรัพย์สินไร่นาของประชาชนทั่วไปทำให้เกิดการขาดอาหารบริโภค จึงประกาศให้ผู้ที่มีสิ่งของเหลือพอจะรับประทานได้ ให้เอามากองรวมกัน เนื่องจากต่างคนต่างมีของคนละอย่างไม่เหมือนกัน ท่านนบีนุฮ ให้เอาของเหล่านั้นมากวนเข้าด้วยกัน สาวกของท่านก็ได้รับประทานอาหารโดยทั่วกันและเหมือนกัน ในสมัยท่านนบีมูฮัมหมัด (ศ็อล) ได้เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันขณะที่กองทหารของท่านกลับจากการรบที่บาดัร ปรากฎว่าทหารมีอาหารไม่พอกิน ท่านนบีมูฮัมหมัด (ศ็อล) จึงใช้วิธีการของท่านนบีนุฮ โดยให้ทุกคนเอาข้าวที่รับประทานได้มากวนเข้าด้วยกัน แล้วแบ่งกันรับประทานในหมู่ทหาร
7. ขนบธรรมเนียมการเคารพ ชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม เมื่อพบปะกันก็จะกล่าวว่า “อัสลามูอาลัยกุม” (ขอความสันติจงมีแต่ท่าน) และมีการตอบรับว่า “อาลัยกุมมุสลาม” (ความสันติจงมีแก่ท่านเช่นกัน) และยื่นมือสัมผัสกัน และบางครั้งก็ยกมาลูบหน้า บางครั้งก็มาแตะบริเวณหน้าอกผู้ชายให้สัมผัสระหว่างชายด้วยกันและผู้หญิงให้สัมผัสมือระหว่างผู้หญิงด้วยกัน ส่วนบุคคลอื่นๆ โดยทั่วไปให้ใช้การไหว้หรือจับมือกัน
⇒ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภาษาถิ่น
– ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สำคัญ คือ ภูมิปัญญาทางด้านการทำขนมหวานท้องถิ่นที่หลากหลายและจะมีการผลิตออกจำหน่ายมากในช่วงเดือนรอมฎอน (เดือนถือศีลอด) นอกจากนี้ เช่น การทำกรงนก เป็นต้น
– ภาษาถิ่นที่ใช้ คือ ภาษามาลายูท้องถิ่น เพราะประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม
⇒ สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
– สินค้าพื้นเมืองที่สำคัญ คือ ขนมหวานโดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน
♦ ทรัพยากรธรรมชาติ
⇒ ทรัพยากรน้ำ
– แหล่งน้ำธรรมชาติจำนวน 2 แห่ง คือ คลองจาเราะกาแร ไหลผ่านบริเวณชุมชนสะพานเหล็กและชุมชนกำปงบอเวาะฮ์ และ คลองบูแม ไหลผ่านบริเวณชุมชนบูแล นอกจากนี้ก็เป็นแหล่งน้ำที่ประชาชนสร้างขึ้นมาเอง คือ บ่อน้ำตื้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมีในครัวเรือนที่ไม่ได้ใช้น้ำประปา
♦ ข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของท้องถิ่น
– เทศบาลตำบลยี่งอ ได้ประกาศกำหนดโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในเทศบาลออกเป็น 1 สำนัก 4 กอง ได้แก่ สำนักปลัดเทศบาล กองคลัง กองช่าง กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และกองการศึกษา
– อัตรากำลังเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลยี่งอมีทั้งหมด 38 คน แยกเป็นพนักงานเทศบาล 14 คน ลูกจ้างประจำ 3 คน พนักงานจ้าง 21 คน